กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
วันที่ 25 มีนาคม 2568 แพทย์หญิงทิพา ไกรลาศ ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา มอบหมายให้กลุ่มพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ร่วมกับสำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย โดยมีวัตถุประงค์เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดการระบบบำบัดสิ่งปฏิกูล เทศบาลนครนครราชสีมา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
การจัดการสิ่งปฏิกูลของเทศบาลนครนครราชสีมา ดำเนินการโดยการให้สัมปทานเอกชนรับทำการเก็บขน และออกใบอนุญาต/ต่ออายุใบอนุญาต ด้วยการเก็บค่าธรรมเนียมกิจการรับทำการเก็บขนสิ่งปฏิกูล ตามเทศบัญญัติ เรื่อง การกำจัดสิ่งปฏิกูล พ.ศ.2488 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2538 โดยกำหนดระยะเวลาสัมปะทานของผู้ประกอบการ เป็นเวลา 3 ปี ทั้งนี้ผู้ประกอบการจะต้องจัดให้มีรถสูบขนสิ่งปฏิกูลที่ถูกสุขลักษณะ มีความจุ ไม่น้อยกว่า 2.5 ลูกบาศก์เมตร และรถสูบขนสิ่งปฏิกูลจะต้องได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก ทั้งนี้ผู้ประกอบการจะต้องจ่ายค่าบริการ จำนวน 250,000 บาทต่อปี และมีค่าใช้จ่ายรายเดือน มีผู้ประกอบกิจการเก็บ ขนสิ่งปฏิกูลในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา จำนวน 13 ราย ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ มีปริมาณการสูบสิ่งปฏิกูลในเขตเทศบาล ข้อมูลปี 63-67 มีปริมาณเฉลี่ย 1,939 ลูกบาศก์เมตรต่อปี หรือ 5.3 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
การกำจัดสิ่งปฏิกูลอยู่ภายในระบบผลิตปุ๋ยอินทรีย์และกระแสไฟฟ้าจากขยะมูลฝอย โดยเทศบาลนครนครราชสีมา ได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีเป็นผู้ควบคุมการเดินระบบและดูแลระบบ ภายในระบบผลิตปุ๋ยอินทรีย์และกระแสไฟฟ้าจากขยะมูลฝอย ออกแบบให้มีช่องรับสิ่งปฏิกูล โดยเฉพาะเมื่อรถสิ่งปฏิกูลเข้ามาเท สิ่งปฏิกูลจะไหลผ่านตะแกรงดักขยะและถูกสูบเข้าสู่ถังหมักขยะอินทรีย์แบบไม่ใช้อากาศ (Anaerobic Digestion) จำนวน 2 ถัง ดังภาพ โดยมีระยะเวลาการหมักมากกว่า 28 วัน เนื่องจากขยะอินทรีย์ยังเข้าสู่ในถังหมักปริมาณน้อย กากตะกอนที่ได้จะถูกระบายเข้าสู่ลานตากตะกอน เพื่อตากตะกอนแห้งแล้ว จะนำไปผสมกับวัสดุทำปุ๋ย ได้แก่ กิ่งไม้ ใบไม้ ขี้ม้า และนำไปตั้งเป็นกองปุ๋ยหมัก เทศบาลนครราชสีมาได้กำหนดให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เก็บตัวอย่างกากตะกอนจากถังหมักวิคราะห์ไข่หนอนพยาธิและเชื้อแบคทีเรีย E.coli เป็นประจำทุกเดือน เนื่องจากมีการนำกากตะกอนที่ได้จากการหมักไปหมักทำเป็นปุ๋ยหมักสนับสนุนกับทางกองทัพภาคที่ 2 และชุมชนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ปริมาณสิ่งปฏิกูลที่นำเข้าสู่ระบบบำบัดตั้งแต่ปี 2563-2567
ทั้งนี้ทางศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมาได้รับความอนุเคราะห์จากเทศบาลนครนครราชสีมา เป็นอย่างดี สำหรับการแลกเปลี่ยนและแนวทางการพัฒนาระบบบำบัดสิ่งปฏิกูลในเขตสุขภาพที่ 9 ต่อไป